วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

iMachining 3D ทำได้อย่างไรถึงมีความแตกต่าง ?

คำถามที่พบบ่อย   






iMachining 3D ทำได้อย่างไรถึงมีความแตกต่าง ?

ด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน iMachining 3D แตกต่างจาก 2D iMachining ได้อย่างไร?

iMachining 3D จะสร้างโปรแกรมงานที่สมบูรณ์พร้อมที่จะเรียกใช้และสร้างโปรแกรมให้ซีเอ็นซีที่มีการคำนวณการตัดเฉือนที่เหมาะสมที่สุด สำหรับงานกัดหยาบ และ เก็บส่วนที่เหลือ คำนวณได้จาก โมเดล สามมิติ โดยใช้ Scallop เดินกัดชิ้นงาน ในการสั่งงานกัดงานจากความลาดชันทั้งหมดในการทำงานครั้งเดียว
ในการใช้งาน iMachining 2D มีความต้องการที่จะต้องให้ผู้ใช้งานสั่งงานในส่วนที่ต้องการกัดงานเป็นส่วน ๆ ตามส่วนที่แยกต่างหากกันและลำดับระยะที่ต้องการจะกัดงาน ในการทำงานในครั้งเดียว, iMachining 2D สามารถทำงานได้ในระยะระนาบ หนึ่งความลึก(หนาหรือบาง) ชิ้นทรงเหลี่ยมสมมาตรของวัสดุ
iMachining 3D จะทำการคำนวณวิเคราะห์ชิ้นงานสามมิติเป้าหมายและจะรับรู้คุณลักษณะทั้งหมดของโมเดลและความลึกโดยไม่จำเป็นต้องกำหนดระยะขอบเขตสำหรับการเลือกเส้นขอบกัดงานหรือระบุระยะเช่นความลึกของการกัดขุดงานแบบ สองมิติ ฯลฯ ปริมาณเนื้อของชิ้นงานทั้งหมดที่จำเป็นต้องถูกตัดเฉือนออกจะแบ่งลงในพื้นที่กัด เส้นทางการเดินตัดหยาบจะเกิดขึ้นในแนวนอนของชิ้นงานตามความหนา (ระยะกัดงานลง ) เดินกัดตามส่วนงานที่เหลือในระยะแนวนอนตามชิ้นงานบาง ๆ (ระยะกัดงานลงขึ้น) สำหรับแต่ละส่วนพื้นที่การกัด โดยใช้การคำนวณวิเคราะห์ที่มีความซับซ้อนที่ดีที่สุดของกัดชิ้น จะประสบความสำเร็จในการตัดเฉือนในแต่ล่ะพื้นที่ iMachining 3D ด้วยวีธีการที่ไม่เหมือนกับวิธีการเดินกัดแบบปกติจะส่งผลให้การเดินกัดงานลดระยะการเดินกัดงาน ระยะถอยออกจากชิ้นงานให้ เดินสั้นที่สุด
iMachining 2D ต้องทำการแบ่งระยะและพื้นที่ ทุกที่จะถูกกำหนดโดยแยกความลึกและโดยขอบเขตสองมิติหรือด้วยการเขียนรูปทรงขึ้นมา
iMachining 3D จะได้รับข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับรูปทรงแบบ Stock – ขอบเขตของชิ้นงานรูปร่างและข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่จะกัดงานงานออกมาแล้วโดยการกำหนดด้วยผู้ใช้งานในการทำ CAM-Part จากขั้นตอนกัดงานก่อนด้วย HSM
         iMachining 2D ต้องการให้ใช้รูปทรงขอบเขตที่ต้องขียนเพิ่มเติมและกำหนดไว้สำหรับเป็นขอบเขตของวัสดุที่จะกัดงาน ที่อยู่ด้านนอกของรูปทรงชิ้นงานจริง
iMachining 3D จะคำนวณได้อัตโนมัติจากพื้นผิวลาดชันโมเดลสามมิติและกำหนดระยะการกัดที่ดีที่สุดคือระยะ Step-up สำหรับแต่ละความลาดชันที่จะกัดได้เฉพาะเจาะจงสำหรับพื้นที่การตัดเฉือน สำหรับสร้างระยะต่อ ๆ ไปของการเดินด้วยระยะ Scallop ที่กำหนดจริงได้ต่อไป


โดยการใช้งานกำหนดค่า Scallop ให้มีขนาดเล็กจะได้ผลของงานที่ดีและระเอียดซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยการทำงานในขั้นตอนต่อไป การเก็บก่อนล่ะเอียด. อย่างไรก็ตามเวลาที่ใช้ในการกัดงานและการคำนวณรอบเวลา จะใช้เวลาที่นานขึ้น



iMachining 2D ไม่สามารถที่จะคำนวณกับชิ้นงานที่มีเนินลาดชัน; สามารถทำได้เพียงระนาบเดียว และความลึกแนวตั้งรูปทรงเรขาคณิตที่พื้นผิวชิ้นงาน



By iNSolid...