วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

STEM Workforce คืออะไร ?

STEM  Workforce  คืออะไร ?



แปลความหมาย แต่ล่ะคำศัพท์ ของ คำว่า STEM   “สะเต็ม”   โดย คำว่า “สะเต็ม” หรือ “STEM” เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษของศาสตร์ 4 สาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology)  วิศวกรรมศาสตร์(Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics)  หมายถึงองค์ความรู้ วิชาการของศาสตร์ทั้งสี่ที่มีความเชื่อมโยงกันในโลกของความเป็นจริงที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ต่างๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกันในการดำเนินชีวิตและการทำงาน คำว่า STEM ถูกใช้
ครั้งแรกโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (the National Science Foundation: NSF) ซึ่งใช้คำนี้เพื่ออ้างถึงโครงการหรือโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ อย่างไรก็ตามสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้ให้นิยามที่ชัดเจนของคำว่า STEM มีผลให้มีการใช้และให้ความหมายของคำนี้แตกต่างกันไป (Hanover Research, 2011, p.5) เช่น มีการใช้คำว่า STEM  ในการอ้างอิงถึงกลุ่มอาชีพที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ 
สะเต็มศึกษา คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงาน  การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่เน้นเพียงการท่องจำทฤษฎีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฏเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริงควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิด  ตั้งคำถาม  แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือบูรณาการกับชีวิตประจำวันได้
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มมีลักษณะ  5  ประการได้แก่ (1) เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ (2) ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวันและการทำอาชีพ  (3) เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21  (4) ท้าทายความคิดของนักเรียน  และ (5) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกับเนื้อหาทั้ง 4 วิชา  จุดประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา คือ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์  และเห็นว่าวิชาเหล่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน  
 อ้างอิง http://www.stemedthailand.org/?page_id=23

คำว่า Workfoce ในภาษาอังกฤษ แปล ตรงๆ ในความเข้าใจกันแบบ ไทย ๆ คือ กำลังแรงงาน  ที่ใช้กันในส่วนงานพัฒนากำลังแรงงาน สำหรับ โลกอุตสาหกรรม ที่ ต้องใช้แรงงาน ในการผลิต และสร้างงานฝีมือ เพื่อผลิตสินค้าและบริการ
ถ้ากล่าวถึงแนวนโยบายการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมที่เรียกว่าไทยแลนด์ 4.0 หรือเรียกว่า ทศนิยมแห่งยุคสมัย : ไทยแลนด์ 4.0 VS แรงงาน 4.0 ภายใต้กระแสของการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่โมเดล ประเทศไทย 4.0 หรือไทยแลนด์ 4.0   การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจทุกภาคส่วนในสังคมทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และแรงงาน โดยการปรับระบบการท่างานจากเดิมเป็นการใช้ระบบอนาล็อค และเข้าสู่ยุคดิจิตอลซึ่งการเข้าสู่ยุคสมัย 4.0 ในระบบอุตสาหกรรมก็เพื่อการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางการค้า แม้มีเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างไรก็ต้องใช้ “ก่าลังคน”
นโยบาย Thailand 4.0 นำไปสู่การที่ต้องปฏิรูปแรงงาน ให้เป็นแรงงาน 4.0 เพื่อพร้อมในการเข้าสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต และ Industry 4.0 ดังนั้นการพัฒนาแรงงานต้องสอดคล้องกับอุปสงค์ในอนาคต และเศรษฐกิจแบบ Digital Society คนต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี่ที่เป็นอัจฉริยะ โดยเฉพาะในสายงานการผลิตและรูปแบบของธุรกิจมีการเชื่อมโยงข้อมูล ข่าวสาร การค้า เป็นในรูปของ Internet Of Things
โดยเมื่อรวม ความหมายแปล แต่ล่ะคำศัพท์  STEM Workforce โดยที่ ภายในประเทศไทย เราเองยังคงเป็น อุตสาหกรรม ภาคการผลิต ที่ต้องพัฒนาเพิ่มสมรรถนะกำลังแรงงาน (CompetencyWorkforce) ต้องเพิ่มเติมองค์ความรู้ด้านทักษะ STEM Workforce ให้กับกำลังแรงงาน ในประเทศ อย่างต่อเนื่อง

By INSOLID
MANUFACTURING SYSTEMS INTEGRATION


วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

อะไรคือข้อดีของ iMachining 3 มิติ ... ?

คำถามที่พบบ่อย  





อะไรคือข้อดีของ iMachining 3 มิติ ... ?

อะไรคือข้อดีของ iMachining 3D ที่ทำความเร็วได้สูงกว่าโปรแกรม 3 มิติ อื่น ๆนอกเหนือจากที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ?


มีข้อดีอีกหลายอย่าง ได้แก่ :
1.   ข้อดีหลัก สำคัญคือการมี โปรแกรม ตัวช่วย สร้างเทคโนโลยีที่โดยจะคำนวณเงื่อนไขการตัดเฉือนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับในแต่ละเส้นทางการเดินตัดแยกกันได้อย่างง่ายดาย ทำให้ในการทำงานในส่วนแรกประสบความสำเร็จทุก ๆ ครั้ง ได้  นี้จะช่วยประหยัดเงินและเวลาเขียนโปรแกรมได้มากและรอบเวลาการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย ลดการทดลองผิดถูกและข้อผิดพลาดในการทำงานได้เมื่อเทียบกับระบบ 3 มิติอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุความต้องการสร้างเส้นทางเดินตัดงานที่มีประสิทธิภาพ


2.   นอกจากการประหยัดเงิน แล้ว iMachining 3D ยังมีสิ่งที่สำคัญมากกว่าระบบโปรแกรม 3D กัดงานความเร็วสูง อื่นๆ  ก็คือ ที่เป็นคุณสมบัติการกำหนดการตัดเฉือนงานขั้นต่ำของโปรแกรมในการตัดเฉือนพื้นผิวลาดเอียง ด้วยคุณลักษณะนี้จะ จำกัดระยะ Z กัดงานตามระดับที่กำหนด เส้นทางการเดินกัดงานหยาบจะมีส่วนที่เหลือ จากการตัดเหลือเพียงว่าถ้าจุดที่ไม่ได้กัดงาน จะกัดงานที่ระยะสูงสุดที่ระบุโดยผู้ใช้


โปรแกรมกัดความเร็วสูง 3D อื่น ๆ ทั้งหมด ทำการตัดงานตามแนวพื้นเอียงแม้ในสถานการณ์ที่ที่ไม่จำเป็นที่ต้องตัดใด ๆ ที่อยู่บนพื้นที่ลาดเอียงเหล่านั้นเพื่อให้อยู่ในระยะค่าที่ระบุไว้ในการเดินแบบ สคอลลอป Scallop (ในโปรแกรม 3 มิติที่มีช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถระบุค่า Scallop โดยส่วนมากที่สุด เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้ระบุ ระยะแบบคงที่)

ด้วยคุณลักษณะที่เฉพาะนี้  การกำหนดระยะขั้นต่ำที่ไม่ซ้ำกันนี้จึงส่งผลให้ใน :
ลดระยะเวลาในการตัดเฉือน สร้างเส้นทางรวมในช่วงขั้นตอนการเดินขึ้น ส่งผลให้ได้ในการลดการสึกหรอของทูลและเครื่องจักรและลดรอบเวลาการทำงานลดลงอีก
ที่มากกว่า การทำให้การตัดเฉือนของวัสดุที่เหลืออยู่บนพื้นลาดเอียงออกได้มากคือ จะทำให้การทำงานในขั้นตอน ของการเก็บละเอียดงานที่ตามมา (โดยใช้โมดูล HSM) ที่สามารถทำให้งานเสร็จได้เร็วขึ้นด้วย การเดินกัดที่รวดเร็วได้ ที่มีเนื้อเหลือน้อย โดยที่โหลดของการเดินกัดจะน้อยและดังนั้นจึงทำให้ลดลงเวลาการทำงานต่อไปได้และประหยัดทูลและลดการสึกหรอของเครื่องจักรได้มาก

3.   ในระหว่างขั้นตอนที่การเดินกัดงานขึ้น ความลึกของการตัดเฉือนตามแนวแกนที่มีขนาดที่เล็กกว่าทุก ๆ ครั้งจะสร้างขั้นตอนที่สูงขึ้นใหม่ ทุก ๆ ครั้ง  โดย iMachining ใช้ฟังก์ชั่นของเทคโนโลยีตัวช่วยสร้างการเพิ่มอัตราการป้อนกัดและมุมการตัดเฉือนของทูล โดยที่ต้องรักษาความต่อเนื่องของโหลดที่กระทำต่อทูลที่สูงขึ้นโดยตัดที่ความลึกขนาดเล็ก เช่นส่งผลให้เวลาการตัดเฉือนที่ใช้ในเครื่องจักรของขั้นตอนนี้สั้นกว่าได้โดยไม่ต้องเพิ่มฟีดอัตราป้อนและมุมองศาการกัดเพิ่มขึ้น



By iNSolid...